Page de couverture de สติในความอยาก [6836-6t]

สติในความอยาก [6836-6t]

สติในความอยาก [6836-6t]

Écouter gratuitement

Voir les détails du balado

À propos de cet audio

หมวดข้อธรรม 8 ประการ พระสูตรที่ 5-8 ในยมกวรรค หมวดว่าด้วยธรรมคู่กันข้อที่ #75_ปฐมสัมปทาสูตร และข้อที่ #76_ทุติยสัมปทาสูตร ว่าด้วยสัมปทา สูตรที่ 1 และ 2 ว่าด้วยเรื่อง สัมปทา (ความถึงพร้อม) 8 ประการ ได้แก่อุฏฐานสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยความหมั่น) เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้านในการทำงานอารักขสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยการรักษา) ไม่ประมาท รักษาทรัพย์ที่หามาได้กัลยาณมิตตตา (ความเป็นผู้มีมิตรดี) คบหาศึกษาบุคคลที่เป็นกัลยาณมิตร คือบุคคลที่มีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา เพื่อให้เกิดกัลยาธรรม คือ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาสมชีวิตา (ความเป็นอยู่เหมาะสม) รู้ทางเจริญและทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์แล้วเลี้ยงชีวิตแต่พอเหมาะ ไม่ให้ฟุ่มเฟือยนัก ไม่ให้ฝืดเคืองนัก ด้วยคิดว่า “รายจ่ายจะไม่ท่วมรายรับ และรายรับจะต้องท่วมรายจ่าย”สัทธาสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา) เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อปัญญาเครื่องตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าสีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล) ถึงพร้อมด้วยศีลห้าจาคสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยจาคะ) มีใจปราศจากความตระหนี่ ยินดีในการสละออกปัญญาสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยปัญญา) มีปัญญาเห็นทั้งความเกิดและความดับอันเป็นอริยะ ให้ถึงความสิ้นทุกข์ธรรมทั้ง 8 ประการนี้ เป็นเหตุนำสุขมาให้ในโลกทั้ง2 คือ ประโยชน์เกื้อกูลในภพนี้ และสุขในภพหน้า โดยจะมีเนื้อธรรมเหมือนข้อที่ #54_ทีฆชาณุสูตร ซี่งแบ่งออกได้เป็น ประเภท คือ (1.) ประโยชน์เกื้อกูลในภพนี้ ได้แก่ ธรรมในข้างต้นตั้งแต่ข้อ 1-4 (2.) สุขในภพหน้า ได้แก่ข้อ 5-8 ข้อที่ #77_อิจฉาสูตร ว่าด้วยความอยากได้ลาภ “ท่านพระสารีบุตร” ได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายถึงบุคคล 8 จำพวก ที่แม้ว่ากายจะอยู่วิเวกแต่ถ้าปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง (คือ ไม่เจริญวิปัสสนาอย่างต่อเนื่อง) ความอยากในลาภย่อมปรากฎ โดยแบ่งจำแนกได้ดังนี้บุคคล 4 จำพวกแรก คือ ขาดสติสัมปชัญญะ จะหลงไปตามผลที่ปรากฎ ทำให้เคลื่อนจากสัทธรรม กล่าวคือ เมื่อมีความอยากในลาภเกิดขึ้นบุคคลพวกนี้จะตั้งความเพียรในการแสวงหาหรือไม่แสวงหาลาภก็ตาม หากไม่ได้ลาภก็จะตีอกชกตัวเสียใจ ...
Pas encore de commentaire