Page de couverture de 6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก

6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก

6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก

Auteur(s): ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
Écouter gratuitement

À propos de cet audio

ในพระไตรปิฏกมีอะไร ทำความเข้าใจไปทีละข้อ, เปิดไปทีละหน้า, ให้จบไปทีละเล่ม, พบกับพระอาจารย์พระมหาไพบูลย์ อภิปุณโณ และ คุณเตือนใจ สินธุวณิก, ล้อมวงกันมาฟัง มั่วสุมกันมาศึกษา จะพบขุมทรัพย์ทางปัญญา ในช่วง "ขุดเพชรในพระไตรปิฏก". New Episode ทุกวันเสาร์ เวลา 05:00, Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการธรรมะรับอรุณ ออกอากาศทุกวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) มีคำถาม/ข้อเสนอแนะ หรือสมัครติดตามฟังทั้ง 7 รายการ ที่ panya.org

Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

2024 panya.org
Spiritualité
Épisodes
  • ธรรมของสัตบุรุษ [6837-6t]
    Sep 12 2025
    หมวดข้อธรรม 4 ประการ พระสูตรที่ 1-7 ในอปัณณกวรรค หมวดว่าด้วยข้อปฏิบัติที่ไม่ผิดข้อที่ #71_ปธานสูตร ว่าด้วยความเพียรเป็นเหตุสิ้นอาสวะ คือ ข้อปฏิบัติที่เป็นเหตุให้ถึงความสิ้นอาสวะ มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่ 1) มีศีล 2) เป็นพหูสูต 3) ปรารภความเพียร 4) มีปัญญา ข้อที่ #72_สัมมาทิฏฐิสูตร ว่าด้วยสัมมาทิฏฐิเป็นเหตุสิ้นอาสวะ คือ ข้อปฏิบัติที่เป็นเหตุให้ถึงความสิ้นอาสวะ มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่เนกขัมมวิตก (ความตรึกปลอดจากกาม)อพยาบาทวิตก (ความตรึกปลอดจากพยาบาท)อวิหิงสาวิตก (ความตรึกปลอดจากการเบียดเบียน)4. สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) ข้อที่ #73_สัปปุริสสูตร ว่าด้วยธรรมของอสัตบุรุษและสัตบุรุษ เป็นธรรมของคนพาลและของบัณฑิตที่แสดงไว้ตรงข้ามกันมีอยู่ 4 ประการ ได้แก่· ธรรมของอสัตบุรุษ (คนพาล คนไม่ดี) ≠ ธรรมของสัตบุรุษ (บัณฑิต คนดี)แม้ไม่ถูกถามก็ชอบเปิดเผยข้อเสียของบุคคลอื่น หากถูกถามก็แจงเสียละเอียด ≠ ไม่ชอบเปิดเผยข้อเสียของบุคคลอื่น แม้ถูกถามก็ตอบแบบอ้อม ๆ ไม่ละเอียดแม้ถูกถามก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อดีของบุคคลอื่น กล่าวอ้อม ๆ ไม่ละเอียด ≠ แม้ไม่ถูกถามก็ชอบเปิดเผยข้อดีของบุคคลอื่น หากถูกถามก็แจงอย่างละเอียดไม่ยอมเปิดเผยข้อเสียของตน หากถูกถามก็ตอบแบบอ้อม ๆ ≠ แม้ไม่ถูกถามก็ยินดีเปิดเผยข้อเสียของตน แม้ถูกถามก็รีบตอบไม่อ้อมค้อมแม้ไม่ถูกถามก็ชอบเปิดเผยข้อดีของตนเอง หากถูกถามก็แจงอย่างละเอียด ≠ ไม่ชอบเปิดเผยข้อดีของตน หากถูกถามก็กล่าวแบบอ้อม ๆ ข้อที่ #74_ปฐมอัคคสูตร ว่าด้วยธรรมอันเลิศ สูตรที่ 1 กล่างถึง ธรรมอันเลิศ 4 ประการ ได้แก่ 1) อริยศีล 2) อริยสมาธิ 3) อริยปัญญา 4) อริยวิมุตติ ข้อที่ #75_ทุติยอัคคสูตร ว่าด้วยธรรมอันเลิศ สูตรที่ 2 ธรรมอันเลิศ 4 ประการได้แก่ รูป (รูปฌาน) เวทนา (เวทนาจากสมาธิ) สัญญา (อรูปฌาน) ที่พิจารณาแล้วบรรลุอรหัตตผล และภพ (ไม่แสวงหาภพ) คือ นิพพาน ข้อที่ #76_กุสินารสูตร ว่าด้วยพุทธกิจในกรุงกุสินารา ในสมัยที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในป่าสาลวัน กรุงกุสินารา พระองค์ทรงรับสั่งตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า “มีผู้ใดสงสัย เคลือบแคลงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และ ...
    Voir plus Voir moins
    54 min
  • สติในความอยาก [6836-6t]
    Sep 5 2025
    หมวดข้อธรรม 8 ประการ พระสูตรที่ 5-8 ในยมกวรรค หมวดว่าด้วยธรรมคู่กันข้อที่ #75_ปฐมสัมปทาสูตร และข้อที่ #76_ทุติยสัมปทาสูตร ว่าด้วยสัมปทา สูตรที่ 1 และ 2 ว่าด้วยเรื่อง สัมปทา (ความถึงพร้อม) 8 ประการ ได้แก่อุฏฐานสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยความหมั่น) เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้านในการทำงานอารักขสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยการรักษา) ไม่ประมาท รักษาทรัพย์ที่หามาได้กัลยาณมิตตตา (ความเป็นผู้มีมิตรดี) คบหาศึกษาบุคคลที่เป็นกัลยาณมิตร คือบุคคลที่มีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา เพื่อให้เกิดกัลยาธรรม คือ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาสมชีวิตา (ความเป็นอยู่เหมาะสม) รู้ทางเจริญและทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์แล้วเลี้ยงชีวิตแต่พอเหมาะ ไม่ให้ฟุ่มเฟือยนัก ไม่ให้ฝืดเคืองนัก ด้วยคิดว่า “รายจ่ายจะไม่ท่วมรายรับ และรายรับจะต้องท่วมรายจ่าย”สัทธาสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา) เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อปัญญาเครื่องตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าสีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล) ถึงพร้อมด้วยศีลห้าจาคสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยจาคะ) มีใจปราศจากความตระหนี่ ยินดีในการสละออกปัญญาสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยปัญญา) มีปัญญาเห็นทั้งความเกิดและความดับอันเป็นอริยะ ให้ถึงความสิ้นทุกข์ธรรมทั้ง 8 ประการนี้ เป็นเหตุนำสุขมาให้ในโลกทั้ง2 คือ ประโยชน์เกื้อกูลในภพนี้ และสุขในภพหน้า โดยจะมีเนื้อธรรมเหมือนข้อที่ #54_ทีฆชาณุสูตร ซี่งแบ่งออกได้เป็น ประเภท คือ (1.) ประโยชน์เกื้อกูลในภพนี้ ได้แก่ ธรรมในข้างต้นตั้งแต่ข้อ 1-4 (2.) สุขในภพหน้า ได้แก่ข้อ 5-8 ข้อที่ #77_อิจฉาสูตร ว่าด้วยความอยากได้ลาภ “ท่านพระสารีบุตร” ได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายถึงบุคคล 8 จำพวก ที่แม้ว่ากายจะอยู่วิเวกแต่ถ้าปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง (คือ ไม่เจริญวิปัสสนาอย่างต่อเนื่อง) ความอยากในลาภย่อมปรากฎ โดยแบ่งจำแนกได้ดังนี้บุคคล 4 จำพวกแรก คือ ขาดสติสัมปชัญญะ จะหลงไปตามผลที่ปรากฎ ทำให้เคลื่อนจากสัทธรรม กล่าวคือ เมื่อมีความอยากในลาภเกิดขึ้นบุคคลพวกนี้จะตั้งความเพียรในการแสวงหาหรือไม่แสวงหาลาภก็ตาม หากไม่ได้ลาภก็จะตีอกชกตัวเสียใจ ...
    Voir plus Voir moins
    57 min
  • แพ้ภัยกิเลส [6835-6t]
    Aug 29 2025

    หมวดข้อธรรม 4 ประการ พระสูตรที่ 5-10 ในปัตตกัมมวรรค หมวดว่าด้วยกรรมอันสมควร


    ข้อที่ #65_รูปสูตร ว่าด้วยบุคคลผู้ถือรูปเป็นประมาณ คนเราจะเลือกเลื่อมใสใครมาจากเหตุ 4 อย่างนี้ คือ รูป เสียง ความเศร้าหมอง และธรรมะ แต่ไม่ควรจะตัดสินใจจากสิ่งที่เห็นภายนอกเพียงอย่างเดียว ดูให้รู้ถึงคุณธรรมภายในด้วย

    ข้อที่ #66_สราคสูตร ว่าด้วยบุคคลผู้มีราคะ บุคคลที่มีราคะ โทสะ โมหะ มานะ นับว่าไม่ดี เมื่อเป็นอริยบุคคลแม้ขั้นโสดาบันสิ่งเหล่านี้ก็จะเบาบางลง

    ข้อที่ #67_อหิราชสูตร ว่าด้วยตระกูลพญางู เกี่ยวกับการแผ่เมตตาให้ 4 ตระกูลของพญางูเพื่อความอยู่เป็นสุข ได้แก่ ตระกูลของพญางูวิรูปักษ์ เอราปถะ ฉัพยาบุตร และ กัณหาโคตมกะ

    ข้อที่ #68_เทวทัตตสูตร ว่าด้วยพระเทวทัต ชี้ให้เห็นถึงลาภสักการะที่เกิดขึ้นนั้น ฆ่าตัวพระเทวทัตเอง มาจากกิเลสในใจ ดุจการเกิดขึ้นของขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ ปลีกล้วยฆ่าต้นกล้วย ลูกม้าอาชาไนยฆ่าแม่ม้าอัสดร และดอกอ้อฆ่าต้นอ้อ ควรรักษาตนไม่ให้มีรอยแผลที่จะถูกตำหนิได้ และการเสพสุขโดยธรรมสามารถทำได้

    ข้อที่ #69_ปธานสูตร ว่าด้วยปธาน (ความเพียร) ว่าด้วยความเพียร 4 ประการ

    1. สังวรปธาน (เพียรระวัง)

    2. ปหานปธาน (เพียรละ)

    3. ภาวนาปธาน (เพียรเจริญ)

    4. อนุรักขนาปธาน (เพียรรักษา)

    ข้อที่ #70_อธัมมิกสูตร ว่าด้วยพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมและผู้ตั้งอยู่ในธรรม ธรรม 4 ประการที่จะเกิดจากเหตุ 13 ประการของผู้ที่ตั้งอยู่ในธรรมและของผู้ที่ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ได้แก่ เป็นผู้มีอายุยืนหรือน้อย ผิวพรรณผ่องใสหรือทราม มีกำลังดีหรือไม่ดี และมีความเจ็บป่วยน้อยหรือมาก ซึ่งสัมพันธ์กับเหตุ 13 ประการในข้างต้น

    พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ปัตตกัมมวรรค

    Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.

    Voir plus Voir moins
    58 min
Pas encore de commentaire